ไม่ว่าใครที่ทำธุรกิจ ก็ต้องการหาลูกค้าให้เข้ามาเยอะๆ หลายคนคงคิดวิธีการต่างๆมากมายเพื่อให้มีคนมาใช้บริการหรือมาซื้อสินค้า วันนี้เรามีเทคนิคการหาลูกค้า 9 แบบมาบอกกัน เผื่อใครจะตกหล่นวิธีไหนไปจะได้มีโอกาสเพิ่มลูกค้าให้มากขึ้น
1.หาลูกค้าเพิ่มจากฐานลูกค้าเก่า
ถ้าหากเรามีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ให้นำมาคัดเลือกลูกค้าที่ยอดการใช้จ่ายหรือใช้บริการสูงสุด โดยเลือกมา 20% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด หลังจากนั้นก็ดูข้อมูลทางสถิติประชากรศาสตร์ของลูกค้ากลุ่มนี้ ตัวอย่างเช่น ชื่อ เพศ อายุ ที่อยู่ ความชอบส่วนตัว สื่อที่ลูกค้ารับข่าวสารประจำ(หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, เว็บไซต์ ฯลฯ) หลังจากรวมรวมข้อมูลได้แล้วก็จะรู้ว่าควรจะประชาสัมพันธ์ธุรกิจหรือบริการเราทางช่องทางไหนดี
2. ลูกค้าเก่าช่วยแนะนำลูกค้าใหม่เข้ามา
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหรือซื้อของเราอยู่ถ้าหากของเราดีก็จะนำไปบอกต่อให้กับ ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าจะมีการไปบอกต่อกันทุกคน ดังนั้นเราควรกระตุ้นให้ลูกค้าเก่าเกิดความอยากบอกต่อมากขึ้น ด้วยการจูงใจต่างๆเช่น การให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่แนะนำลูกค้าใหม่มาหรือแจกบัตรคูปองต่างๆไปให้ลูกค้าเก่า ถ้าหากลูกค้าใหม่นำคูปองดังกล่าวมาก็จะได้รับสิทธิพิเศษด้วย และที่สำคัญที่สุดอย่างลืมลูกค้าเก่าควร ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเขาสำคัญต่อธุรกิจหรือบริการของคุณ โดยอาจจะให้ของขวัญเป็นการขอบคุณเมื่อมีโอกาส
3. ใช้การตลาดที่เหมาะสมในการดึงดูดลูกค้าใหม่
หลังจากเราได้ข้อมูลต่างๆของลูกค้ามาแล้ว ที่ต้องทำก็คือใช้การตลาดในการส่งเสริมการขายหรือบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า แน่นอนว่าลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน แตกต่างกันด้วย เพศ อายุ สภาพแวดล้อมในการดำเนินชีวิต ดังนั้นรสนิยมของลูกค้าจะไม่เหมือนกันดังนั้นเราควร แยกกลุ่มลูกค้าออกและใช้การตลาดอย่างเหมาะสม
4. ช่วยเหลือหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
นอกจากงบโฆษณาแล้ว อาจจะแบ่งเงินบางส่วนนำไปบำเพ็ญประโยชน์ทางสังคมบ้าง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรหรือธุรกิจเราดีขึ้น ถ้าหากโลโก้ของบริษัทหรือคนในองค์กรไปปรากฏตามกิจกรรมต่างๆบ่อยๆ ก็นับว่าเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างนึง ซึ่งไม่ต้องเสียค่าโฆษณาใดๆเพิ่มเติมเลย ภาพลักษณ์ที่ดีลูกค้าที่จะมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราก็มากขึ้นตามไปด้วย
5. มีการจัดอบรมหรือสัมนาต่างๆ
ถ้ามีการจัดอบรมหรือสัมนาให้กับผู้ที่สนใจ จะทำให้เราดูเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้น เช่น ถ้าหากทำกิจการหรือเปิดบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก็อาจจะร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรเปิดคอสอบรมเกี่ยวการดูแลสุขภาพ โดยอาจจะตั้งบูธให้คำปรึกษา ตอบข้อสงสัยต่างๆให้กับผู้ที่เข้าร่วม จะทำให้ลูกค้าไว้วางใจเราและเมื่อมีปัญหาหรือต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพก็จะคิดถึงเราเป็นอันดับแรก
6. จับมือกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาองค์การหรือธุรกิจที่มีความใกล้เคียงกับเรา เนื่องจากธุรกิจต่างๆมีฐานลูกค้าอยู่แล้วดังนั้นการร่วมมือกันจะเป็นการขยายฐานลูกค้าไปในตัว ทำให้ต่างคนต่างได้รับประโยชน์ร่วมกันและยังประหยัดงบการโฆษณาเพราะสามารถใช้ค่าใช้จ่ายร่วมกันได้อีกด้วย ชั่นร่วมกัน
7. ใช้เว็บไซต์ในการโปรโมทธุรกิจหรือบริการ
ในปัจจุบันนี้การใช้งานอินเตอร์เนตของคนไทยเพิ่มขึ้นมาก เรียกได้ว่าทุกคนมีสมาร์โฟนต่อเข้าอินเตอร์เนตกันเกือบทุกคน ดังนั้นหากเรามีเว็บไซต์ของธุรกิจหรือบริการของเราก็จะเป็นการทำให้ลูกค้ารู้จักเราได้เร็วขึ้น และถ้าหากเรามีเว็บไซต์แล้ว การโปรโมททางอินเตอร์เนตนั้นมีมากมายหลายวิธีเช่น ติดป้ายแบนเนอร์โฆษณาลงในเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมเยอะๆ, ส่งอีเมลโปรโมทธุรกิจไปให้กลุ่มเป้าหมาย หรือ จ่ายเงินเพื่อลงโฆษณากับ Google ให้ไปแสดงผลตามเว็บต่างๆในสังกัด เป็นต้น
8. โปรโมทธุรกิจหรือกิจการในสื่อสังคมออนไลน์
นอกจากมีเว็บไซต์แล้วอาจจะยังไม่เพียงพอ ผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นนิยมใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก เช่น Facebook, Twitter หรือ Instargram เป็นต้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการโปรโมทธุรกิจหรือกิจการผ่านสื่อพวกนี้ วิธีการโปรโมทสื่อสังคมออนไลน์นั้นไม่ยาก เพียงแค่เราเข้าไปสมัครสมาชิกแล้วก็นำรายละเอียดสินค้าหรือบริการของเราใส่ลงไป ก็จะทำให้ผู้คนเห็นและถ้าหากสนใจก็จะมาเป็นลูกค้าเราได้ทันที
9. ออกงานตามอีเวนท์ต่างๆ
แน่นอนว่าการออกงานหรือออกบูทในแต่ละครั้งเพียงไม่กี่วันมีค่าใช้จ่ายมากมาย แต่จำนวนผู้เข้าชมงานนั้นก็มากตามเหมือนกัน ถ้าหากเรามั่นใจในธุรกิจหรือบริการของเราแล้วก็ไม่จำเป็นต้องลังเล ถ้าหากมีคนเดินในงานมากๆโอกาสสร้างลูกค้าใหม่ๆของเราก็มีมากอย่างแน่นอน แต่อาจจะได้เจอกับคู่แข่งของเราเช่นกัน ดังนั้นควรจัดโปรโมชั่นพิเศษต่างๆในงานเพื่อให้นำหน้าคู่แข่งของเราไปอีกก้าวนึง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเคล็บลับการหาลูกค้าใหม่ที่อ่านกันไป ธุรกิจต่างๆมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราควรใช้วิธีต่างๆตามความเหมาะสมอาจจะไม่ต้องทำทั้งหมดก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือหลังจากทำวิธีใดไปแล้วควรกำหนดเป้าหมาย งบประมาณและเวลาใช้ชัดเจน เพื่อวัดผลกันว่าวิธีไหนได้ผลไม่ได้ผล และควรปรับปรุงอย่างไร
นอกจากนี้ผู้ทำธุรกิจหรือบริการควรพึงรำลึกเสมอว่า ต้องทำให้ลูกค้าทุกคนประทับใจ มีความเอาใจใส่ลูกค้าไม่ทิ้งเมื่อมีปัญหาเพราะลูกค้าทุกคนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราดำเนินอยู่ได้
-------------------------------------------------Technicing ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มยอดขายออนไลน์ รับทำเว็บไซต์ ทำการตลาดออนไลน์
รับดูแลโฆษณาใน Google และ Facebook
แฟนเพจ https://www.facebook.com/technicing/
โทร : 082-450-6779
